สอนเพศศึกษาให้กับครอบครัว
ปัจจุบันเป็นที่ยอมรับว่าปัญหาทางเพศเป็นปัญหาที่สำคัญเรื่องหนึ่งของครอบครัวและเด็ก ไม่ว่าจะเป็นปัญหาความสับสนทางเพศ การวางตัวที่ไม่เหมาะสมของเด็กวัยรุ่นหญิง – ชาย การลวนลามทางเพศ การมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรหรือการเสพสื่อXXXจนติดเป็นนิสัย และนำไปทำตาม นำไปสู่การตั้งครรภ์ ทำแท้ง ติดโรคโดยเฉพาะโรคเอดส์และการทำอนาจารเลียนแบบ ผู้ที่จะช่วยป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้ดีที่สุดคือพ่อแม่และคนในครอบครัวเพราะ ครอบครัวเป็นหน่วยของสังคมที่มีความสำคัญที่สุดในการหล่อหลอมเด็กมาตั้งแต่เกิด และเป็นผู้วางรากฐานทั้งในเรื่องความคิด ความสามารถ วิธีการแก้ปัญหา ค่านิยม คุณธรรมและจริยธรรม พ่อแม่และผู้ใหญ่ควรเลี้ยงดูเด็กให้พึงพอใจในตนเอง รักตัวเอง นับถือผู้อื่นมีความรู้ความเข้าใจและเจตคติที่เหมาะสมในเรื่องเพศ การที่พ่อแม่จะสอนลูกในเรื่องเพศศึกษาไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็คงไม่ยากเกินไปถ้าทุกท่านเห็นความสำคัญและมีความตั้งใจ ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกับคำว่า เพศศึกษา เสียก่อนว่าคืออะไร ทุกวันนี้คนทั่วไปเข้าใจผิดและมักคิดว่าเพศศึกษาคือเรื่องเพศสัมพันธ์ ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว เพศศึกษาคือการศึกษาบทบาทของตัวเองว่า ผู้หญิงควรเป็นอย่างไร ผู้ชายควรเป็นอย่างไรตลอดจนการดูแลรักษาความสะอาดในเรือนร่างของแต่ละเพศ ว่าควรทำอย่างไร และการระมัดระวังป้องกันตัวเอง และการสอนว่าดูสื่อXXXให้เป็นการศึกษาหรือการเสพสุข ก็ให้เริ่มจาก การอธิบายเรื่องการดูแลรักษาความสะอาดในเรือนร่าง สอนให้เด็กรู้จักป้องกันตัวเองจากคนแปลกหน้า แต่คงจะไม่ไปสอนเรื่องเพศสัมพันธ์ในเด็กวัยเรียนเพราะถือว่าไม่เหมาะ ต้องรอให้เด็กเป็นวัยรุ่นมากกว่านี้ และเมื่อเด็กโตเป็นวัยรุ่น เด็กก็จะค่อยๆ เรียนรู้ เรื่องเพศสัมพันธ์ไปเองว่าคืออะไร ซึ่งการจะพูดเรื่องเพศสัันธ์ให้เด็กรู้ก็ต้องดูตามความเหมาะสม ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว ผู้ใหญ่ไม่ว่าจะเป็นครู หรือผู้ปกครอง ควรเริ่มสอนจากเรื่องง่ายๆอย่างในร่างกายเรามีอวัยวะอะไรและอวัยวะเพศเป็นอย่างไร เป็นการอธิบายที่อยู่ในกรอบแค่พอสมควร คงไม่เหมือนฝรั่งที่จะลึกซึ้งเรื่องเพศสัมพันธ์และการเปิดXXXเพื่อสอนบทเรียน เพราะบ้านเราถือว่าการอธิบายที่ลึกซึ้งเกินไป จะเป็นการไปกระตุ้นให้เด็กอยากรู้อยากเห็นเร็วขึ้น โดยเฉพาะพ่อแม่ ผู้ปกครอง ฯลฯ จะต้องมีความรู้ และทักษะเพียงพอที่จะสื่อสาร และปฏิบัติต่อสังคมด้วยกันด้านความสัมพันธ์ระหว่างเพศได้ โดยเฉพาะกับผู้ที่อายุเยาว์วัยกว่าที่อยู่ใกล้ชิด ผู้ใหญ่กับเด็กจะต้องเข้าใจและร่วมมือกันมากขึ้น ในการที่จะจรรโลงสังคมให้ดีขึ้น การให้ความรู้จึงจำเป็นต้องหาทางกระจายอย่างเหมาะสมให้ผู้ใหญ่เหล่านี้ในทุกระดับ